สัปเหร่อ (2566) The Undertaker เรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านโนนคูณในจักรวาลไทบ้าน เล่าถึงชีวิต เจิด เด็กหนุ่มวัย 25 ปีที่เรีนนจบกฎหมาย 7-8 ปี มีพ่อทำอาชีพ สัปเหร่อ เขาหวังจะไปสอบเป็นทนายหรือปลัดอำเภอ แต่ต้องมาช่วยพ่อเป็นสัปเหร่อ เพราะพ่อมีอาการป่วยจนต้องมาช่วยพ่อทำงาน แต่ลังเลเพราะเกิดเป็นคนที่กลัวผีมากๆ และต้องมาทำงานกับศพ
เซียง ผู้อกหักจากคนรักและพยายามบวชเพื่อลืมแฟนเก่า (ใบข้าว) แต่สุดท้ายต้องมาเจ็บปวดเพราะใบข้าวตาย และทำใจไม่ได้จึงหาวิธีที่จะเจอ กับใบข้าวในโลกหลังความตาย จึงเรียนรู้และศึกษาทฤษฎีต่างๆ เกี่ยวกับการเจอคนที่ตายไปแล้ว ไปปรึกษาพ่อเจิดที่รอการทำพิธีถอดจิตไปโลกความฝันสามารถเจอคนที่ตายแล้วได้ พ่อเจิดมีข้อแลกเปลี่ยนในการทำพิธีให้โดยเซียงต้องมาช่วยเจิดทำงานสัปเหร่อ เพราะเจิดเป็นคนที่กลัวผีมากๆ และต้องมาทำศพแทนพ่อ เซียงเป็นคนสุดท้ายที่พอจะได้ทำพิธีถอดจิตให้ก่อนตาย สุดท้ายทุกอย่างมีเวลาของมัน มันคือธรรมชาติของความจริง ทุกคนเรียนรู้และเข้าใจการยื้อและการเสียคนที่รักจากไป
เริ่มต้นเรื่องมาก็จะย้อนความทรงจำเก่าๆ ของเเต่ละภาคมารวมกัน
เปิดฉากมา เซียง ลอด เเละมืด รวมตัวกันไปฉาบปูนที่โรงศพของใบข้าว เพราะก่อนหน้านั้นแม่ใบข้าวมาบอกกับเซียงว่าจะไปหาที่เพื่อเผาศพใบข้าวหลังจากฝังมานาน
วันรุ่งขึ้นเฮิร์บได้ถูกจ้างให้ไปรับ เจิด น้องชายคนละแม่ กับ หมอแจ็คที่เป็นเพื่อนกับหมอปลาวาฬกลับบ้านพร้อมขนของกลับเพื่อมาพักอ่านหนังสือก่อนเข้าสอบทนาย พ่อของเจิดเเละหมอแจ็คนั้นเป็นสัปเหร่อ
เจิดมาถึงบ้านหมอเเจ็คที่บอกเจิดว่าช่วยพ่อทำศพหน่อยเพราะพ่อจะไม่ไหว ส่วนพ่อที่บอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวพ่อทำเองเพราะพ่อยังทำไหวอีกอย่างเจิดก็เป็นคนกลัวผี
ส่วนเซียงก็ไปงานเลือกสถานที่เผาศพ โดยสัปเหร่อให้คนในครอบครัวเสี่ยงโยนไข่ถ้าตรงไหนเเตกก็เผาตรงนั้นเเต่ถ้าเกิดไม่เเต่ก็ไม่ได้ที่เผา แม่ที่โยนก็ไม่เเตก น้องสาวก็ไม่เเตก สามีที่ทำให้ใบข้าวตายโยนก็ไม่เเตก เซียงเลยขอสัปเหร่อว่า “ผมขอโยนได้มั้ยเเต่สัปเหร่อบอกว่าเขาให้คนในครอบครัว เเล้วถามเซียงว่าเป็นอะไรกับใบข้าว เซียงได้เเต่ตอบว่าเป็นผู้บ่าวเก่า ” หลังจากเซียงนั้นโยนสุดท้ายก็เเตก หาที่เผาเจอ เเต่เซียงคิดว่า ใบข้าวน่าจะอยากบอกอะไร
ผ่านมาอีกวันเซียงได้ถามยายตัวเองว่าถ้าอยากเห็นผีต้องทำไง ยายก็บอกว่ามี 3 วิธี
1.ใส่พระกลับหัวหรือลอดใต้หว่างเเขน
2.ใส่เสื้อผ้าของคนตาย
3.เอาน้ำตาหมาดำมาทาตา
ยายที่ถามว่า อยากเจอผีทำไมเซียงที่ว่าป่าวอยากเจอเเค่อยากรู้ จู่ๆ เซียงก็มาทำตามวิธีที่ยายบอกทำให้คนอื่นมองว่าเป็นบ้าน
ผ่านมาอีกวัน เซียงก็ได้ไปหาพระป่อง เพื่อไปถามว่าพระป่องจะมีวิธีเจอผียังไงพระป่องก็บอกว่า โรเบิร์ตเป็นคนที่มีเซ็นส์เห็นผีได้สื่อสารกับเเม่ตัวเองตอนตายใหม่ๆ ได้ เเต่เซียงที่ไม่เชื่อ เดินมาจะถามโรเบิร์ต เเต่ได้เล่นกับโรเบิร์ตเฉย สุดท้ายก็โดนโรเบิร์ตไล่ไป
ส่วนสัปเหร่อที่นับวันก็ยิ่งป่วยลงๆเพราะเป็นมะเร็งระยะที่ 3-4 เลยจะหาผู้สืบทอด ให้มาเป็นสัปเหร่อเเทนตนก็ได้บอกลูกชาย ลูกชายเลยบอกว่าจะเป็นให้ เเต่มีข้อเเม้ สัปเหร่อจะต้องให้มีผู้ช่วยนั้นก็คือเซียง
เจิดที่เดินมาหาเซียงพร้อมเข็ญพ่อที่เป็นสัปเหร่อมาด้วยที่บ้านเซียงได้ถามเซียงว่าอยากเห็นผีมั้ย เซียงที่อยากเจอใบข้าวก็ยอมที่จะทำตามขอเเค่ได้เจอ เเต่ลุงสัปเหร่อก็บอกว่า เเต่มีข้อเเลกเปลี่ยนคือเซียงต้องมาเป็นผู้ช่วยสัปเหร่อให้เจิด เซียงนั้นก็ตกลงยินยอมที่จะเป็นผู้ช่วยของเจิด
หลังจากนั้นเจิด พ่อสัปเหร่อ เเละเซียงได้ทำการตกลงกันว่าจะสอนวิธีทำศพ หรือ การเป็นสัปเหร่อ หลังจากนั้นพอสอนเสร็จเเล้วเซียงก็ขอให้พ่อเจิดช่วยสอนวิธีถอดจิต
สัปเหร่อก็ให้คำเเนะนำในการถอดจิตมานั้นก็คือ กัดใบพูล 9 เเล้วก็นอนเอามือไขว้หลัง เเต่ระหว่างเริ่มจะต้องจุดธูป 1 ดอก เเล้วจะต้องมีคนปลุก ก่อนที่ธูปจะหมด ไม่งั้นจะทำให้จิตหลุดเเล้วเป็นบ้าได้
เซียงได้ให้ลอดมาเป็นคนปลุกระหว่างถอดจิต เเล้วพ่อเจิดก็บอกว่า เราจะไปทะลุทั้งหมด 3 ที่
ซึ่งเซียงก็ได้ถอดจิตไปเเต่ละที่จนถึงที่สุดท้ายเเล้วเเต่เซียงก็ยังไม่ทันได้คุยกับใบข้าวเพราะจ่าลอดก็ปลึกเซียงก่อนเเต่ปลุปยังไงก็ไม่ตื่น จนสุดท้ายจะเอารองเท้าตบ เซียงที่ตื่นมาทันก่อนที่จะโดน เซียงได้บอกลอดว่าตัวเองถอดจิตได้เเต่ลอดผู้ไม่เชื่อ
วันต่อมา เซียงได้ไปบอกพ่อของเจิดว่าตัวเองนั้นถอดจิตได้ เลยขอสัปเหร่อว่า ขอถอดจิตอีกครั้ง สัปเหร่อเลยบอกว่าทำไมไม่ทำเอง ให้มาอยู่ด้วยทำไม เเต่เซียงก็ตอบไปว่า มีผู้ใหญ่ก็ดีกว่า เเต่สัปเหร่อก็ได้บอกไว้ว่า ทำได้เเค่วันละครั้งหลังเที่ยงคืนเเล้วถ้าไม่ได้กลิ่นธูปก็ให้รีบกลับมา
หลังจากเซียงที่ทำจนหายสงสัย จากนั้นเป็นช่วงทดลองงานของเจิดกับเซียงที่เป็นสัปเหร่อ มีทั้ง คริส อิสลาม เเม้กระทั้งงานศพของกระเทยที่จัดเต็ม ทำจนชิน งานสุดท้ายก็คืองานศพของกระเทยเซียงได้เอ่ยปากชมว่า พวงหรีดสวย เเต่ก็โดนเจิดว่า ว่าทำไมพูดเเบบนั้นมันจะทำให้มีคนตายเพิ่ม
ตัดภาพมาที่พ่อของเจิดนั้นอยากได้ดูผลงานของลูกชาย คุยกับลูกชายอยู่ดีดี ก็สลบไปกับรถเข็น จนต้องหามส่งโรงพยาบาลหมอเเจ็คที่บอกกับน้องชายว่าอย่าทำหน้าเศร้าใส่พ่อนะ พ่อที่ขอกินลาบก้อยเเต่ลูกทั้ง 2 ไม่ยอมให้กิน
ผ่านมาอีกวันถึงวันที่ต้องเผาใบข้าวเเล้วเจิดก็ได้ทำการตัดความสัมพันธ์ของเเม่ลูก เเล้วสามี จนมาถึงเซียงก็ทำพิธีตัดความสำคัญไปด้วยเเต่เซียงหันไปอีกรอบจนทำให้คนในงานพิธีนั้นวุ่นวาย
ต่อมาเจิดที่มีสายเรียกเข้าพอดี หมอเเจ็คที่โทรมาบอกว่าพ่อเสียเเล้วทำให้เจิดนั้นทำพิธีต่อไม่ไหวเลยให้เเม่ของใบข้าวทำการเผาเเทน เซียงที่ป่วนงานก็ต้องพากลับมา
ส่วนเจิดก็ทำพิธีศพให้พ่อของตัวเองทั้งหาข้าวที่พ่อชอบนั้นก็คือลาบก้อยมาให้พ่อกินเเต่สุดท้ายก็ได้เเค่เคาะโลงเท่านั้น เซียงที่เมาเเถมยังหมกมุ่นอยู่แต่กับใบข้าวก็ได้มาพังงานศพของสัปเหร่อทำให้มีการชกต่อยตีกัน สุดท้ายลอดกับมืดก็ต้องพาตัวเซียงออกมาที่บ้านมาหายาย
ยายที่ปิ้งข้าวจี่กำลังไหม้ก็เอามาให้หลานชายกินเรียกสติ สุดท้ายเซียงที่พยายามจะถอดจิตไปหาใบข้าวอีกครั้งเเต่เห็นว่าทั้งยายเเละปริมนั้นได้นอนจับมือไม่ให้ไปไหน ทำให้เซียงเลิกคิดที่จะทำวิธีนั้นเเละนอนกอดยาย ปริมก็ได้ตื่นมากอดเซียง
วันรุ่งขึ้นเซียงที่บอกปริมว่าขอจีบปริมใหม่อีกครั้งเเต่ปริมบอกว่าไม่ต้องจีบหรอก เพราะมันผูกพันธ์ไปเเล้ว ฉากสุดท้าย สโตร์ผักของป่องก็ไม่รอดก็ได้ทำการรื้อทิ้งโดยมีลอดคอยกำกับด้วย
ป่องที่บอกลอดว่าจะไปเปิดร้านลาบที่ญี่ปุ่นก็ได้ถามลอดว่าเป็นไงบ้าง ลอดที่บอกว่าทำอะไรก็เจ๋ง มึงอย่าหาทำเลยดีกว่า เพราะว่ามีเเต่เจ๋ง กับเจ๋ง…..